Baking Soda (โซเดียมไบคาร์บอเนต) พระเอกที่จะช่วยคุณล้างบ้านหลังน้ำลด

วันนี้ขอนอกเรื่องนำข้อมูลดีๆมาแชร์ครับ บ้านใครน้ำท่วมแนะนำ ลองใช้เองแล้ว คราบเชื้อรา คราบดำที่เกาะผนังปูนออกหมด


ใช้ Baking Soda หรือโซเดียมไบคาร์บอเนต (SODIUM BICARBONATE) 
และน้ำส้มสายชู หลังน้ำลด

เราควรใช้สิ่งที่ทำความสะอาดได้ดี ไม่แพง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยกับ..เรา..
ถ้าเราต้องสูตรดมสารเคมีมากๆระหว่างทำความสะอาดก็คงไม่ดีเป็นแน่ 
มีคำแนะนำสำหรับของที่หาง่ายๆ ปลอดภัยเป็นของติดครัวของหลายๆบ้าน
อย่าง Baking Soda หรือโซเดียมไบคาร์บอเนต และน้ำส้มสายชู  สามารถทำความสะอาดได้ทุกพื้นที่ 
ตลอดจนช่วยกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ด้วย มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค ไม่มีสารพิษ และช่วยกำจัดกลิ่น


สำหรับ Baking Soda นั้น มีการค้นพบมานานแล้วว่ามันสามารถกำจัดเชื้อราได้ และปลอดภัยกับสิ่งแวดล้อม
งานวิจัยจาก มหาวิทยาลัยคอร์แนล ได้ใช้ Baking Soda ผสมน้ำ ฉีดให้กับพืชเพื่อกำจัดเชื้อราด้วย
จึงปลอดภัยกับสิ่งแวดล้อม ชัวร์ครับ…

การทำความสะอาดเชื้อรา และคราบดำบนพื้นและผนั  
1.เพียงโรยผง Baking Soda ในจุดที่ต้องการทำความสะอาดให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพัก แล้วเช็ดล้างด้วยน้ำอุ่น
ใช้แปรงขัด แล้วฉีดน้ำตามก็ได้
2.หรือ ใช้ผง baking soda ผสมกับน้ำ คนให้เข้ากัน แล้วใช้ขัดถูได้เลยครับ
3.อีกวิธี โรยผง Baking Soda ให้ทั่วบริเวณคราบดำ แล้วเทน้ำส้มสายชูตาม จะฟู่ๆ แล้วทิ้งไว้สักพัก
ฉีดน้ำ คราบเชื้อราจะหลุดออกมาเป็นแผ่นๆเลยครับ ทดลองทำมาแล้วครับ ได้ผลจริงๆ
- การกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ก็เช่นกัน ใช้ผง Baking Soda โรยบริเวณขยะ ระหว่างรอให้คนมาเก็บไป
- ภาชนะหรือข้าวของบางอย่างที่เราเก็บไม่ทัน แล้วถูกน้ำท่วม ก็เอาแช่ Baking Soda ค้างคืนไว้เลยครับ
ฆ่าเชื้อโรค แล้วก็กำจัดกลิ่นให้หมดไป

ลองดูนะคะ เข้าไปดูบ้านคราวนนี้ลองติด Baking Soda กับน้ำส้มสายชูไปด้วยครับ เผื่อจะใช้กำจัดคราบสกปรก
และกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกไป และยังไม่ทิ้งสารพิษตกค้าง ปลอดภัยกับคน และสิ่งแวดล้อมด้วยนะคะ
ผงวิเศษจากก้นครัว
เบกกิ้งโซดา (Baking Soda) หรือมีชื่อทางเคมีว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium Bicarbonate) )
แต่คุณแม่บ้านรู้จักดีในนามของ "ผงฟู" มีประโยชน์ขึ้นชื่อตรงที่ช่วยทำให้อาหารขึ้นฟู
โดยเฉพาะเค้ก คุกกี้ ขนม เช่น เค้กกล้วยหอมจะให้ฟูนุ่มน่ากินก็ต้องมีเบกกิ้งโซดาเป็นส่วนผสม

เบกกิ้งโซดามีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ มีความสามารถขจัดคราบบนพื้นผิวต่างๆ ได้นุ่มนวล และปลอดภัยต่อการใช้
ส่วนใหญ่สามารถนำไปใช้ประโยชน์หลักๆ 3 อย่าง คือ
- ใช้เป็นสารฟอกขาวในการซักผ้า
- ใช้ขจัดคราบสกปรกบนพื้นผิว
- และใช้ดับกลิ่นในที่ต่างๆ ได้ดีมากอีกด้วย
การล้างผัก ผลไม้ ด้วยน้ำสะอาด
ให้สะอาดจากสิ่งสกปรก ด้วยปริมาณครึ่งหนึ่งก่อน แล้วเด็ดผักเป็นใบ ๆ แช่น้ำที่มากพอสมควรและแช่นาน 15 นาที จะลดสารพิษที่ติดมากับผักและผลไม้ได้ประมาณ 7-33 % แต่ถ้าล้างโดยการเด็ดเป็นใบ ๆ ใส่ตะกร้าโปร่ง เปิดก๊อกน้ำให้ไหลแรงพอประมาณ ใช้มือช่วยคลี่ใบผัก ล้างนาน 2 นาที จะช่วยลดปริมาณสารพิษที่ติดมากับผักได้ประมาณ 54-63%

การล้างผัก ผลไม้ ด้วยน้ำร้อนใช้น้ำร้อนมาล้างผัก จะสามารถลดสารพิษได้ประมาณ 50% ส่วนการต้ม เช่น การทำแกงจืดสารพิษจะลดลงได้เท่ากับการลวกผัก แต่สารพิษที่ลดลงนี้ มักจะอยู่ในน้ำแกง นั่นเอง

การล้างผัก ผลไม้ ด้วยโซเดียมไบคาร์โบเนต
นำเบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 10 ลิตร แช่ผักผลไม้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า 2 ครั้ง ช่วยลดปริมาณสารพิษได้ถึง 90-95% ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยมาก และหลังจากแช่ผักในสารละลายโซเดียมไบคาร์บอเนตแล้ว ควรนำผักมาล้างด้วยน้ำอีกหลาย ๆ ครั้งก่อนนำไปบริโภค เพื่อจะเอาสารพิษที่ตกค้างที่ผิวของผักออกให้หมด

การล้างผัก ผลไม้ ด้วยน้ำส้มสายชู 0.5%
จะลดสารพิษลงได้ประมาณ 60-84% แช่นาน 15-30 นาที จะช่วยฆ่าเชื้อโรคและทำลายไข่ของพยาธิได้ดีมาก

การปอกเปลือกหรือการลอกชั้นนอกของผักออก
เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาวปลี ถ้าได้ลอกใบชั้นนอกออก 4-5 ใบ จะปลอดภัยมากกกว่าเพราะชั้นนอกมีสารพิษตก
เสื้อผ้าหอมสะอาด
เบกกิ้งโซดาเหมาะที่จะใช้ดับกลิ่นอับของเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ เมื่อจะใช้ให้ผสมเบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วย (1 ถ้วย = 16 ช้อนโต๊ะ)
กับผงซักฟอกชนิดน้ำปริมาณที่คุณใช้ และแทนที่คุณจะใช้สารฟอกขาวชนิดคลอไรด์ถึงถ้วยหนึ่งเต็มๆ
คุณสามารถใช้เพียงครึ่งหนึ่งเข้าไปแทนที่ได้ แต่ก็อย่าลืมว่าถึงเบกกิ้งโซดาจะใช้ซักเสื้อผ้าได้
แต่มันก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการซักเท่ากับผงซักฟอก เบกกิ้งโซดาจึงเป็นเพียงส่วนเสริมให้ผ้าสะอาดมากขึ้นเท่านั้น
( ใช้ตอนซักผ้า ใส่เบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยลงในน้ำสุดท้ายที่กำลังจะล้างฟองออกจะทำให้ผ้ากลิ่นสะอาดขึ้น
หรือใส่ในเครื่องซักผ้าพร้อมกับน้ำยาซักผ้า จะทำให้ผ้าขาวและสีจะสดขึ้น)

พื้นผิวสิ้นคราบสกปรก
สำหรับพื้นผิวแข็งๆ เช่น พื้นครัว พื้นห้องน้ำ อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ให้ละลายเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะ
ผสมกับน้ำอุ่น 4 ถ้วย เช็ดทำความสะอาด แล้วค่อยล้างออก

คราบทำความสะอาดยาก
ในกรณีที่มีคราบสกปรกทำความสะอาดยาก ให้ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำอุ่นในปริมาณที่เท่ากันข้นจนเป็นแป้ง
จากนั้นให้พอกทิ้งไว้บริเวณที่มีคราบสกปรก อย่างเช่น บนเคาน์เตอร์ หรือจานกระเบื้องสัก 1 ชั่วโมงแล้วค่อยเช็ดออก

ทำความสะอาดเขียง
ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำทำความสะอาดเขียง จะช่วยทำให้เขียงหมดกลิ่นคาว

น้ำยาล้างคราบในกาน้ำชาที่เป็นโลหะ
ใส่น้ำลงในกาน้ำชาแล้วเติมเบกกิ้งโซดาลงไป 2 ช้อนโต๊ะ บีบน้ำมะนาวลงไปครึ่งลูก ต้มราวๆ 15 นาที ขัดและล้างจะสะอาดง่าย
น้ำยาทำความสะอาดเครื่องสุขภัณฑ์
เทเบกกิ้งโซดา 1/2 กล่องลงในถังนำหลังชักโครก ทิ้งไหว้ 1 คืนแล้วค่อยกดชักโครก ถังและชักโครกสะอาดและปราศจากกลิ่น และ ขัดเครื่องสุขภัณฑ์
ที่เป็นเซรามิค จะสะอาดเอี่ยมเลย

น้ำยาทำความสะอาดเตาไมโครเวฟ
นำเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่น 1 ลิตร นำผ้ามาชุบแล้วเช็ดทำความสะอาดภายใน คราบสกปรกจะเช็ดออกง่าย

ครีมลบรอยขูดขีดเครื่องครัว
ละ ลายเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 1 ลิตร ใช้ผ้าชุบบิดพอหมาด นำไปเช็ดใต้เตารีด หรือเครื่องครัว ที่ทำด้วย ฟอร์เมก้า สแตนเลส พลาสติก โครเมี่ยม (ยกเว้นอะลูมิเนียม) จะทำความสะอาดได้หมดจดไม่เกิดรอยขูดขีด  ริ้วรอยจะเลือนหายไป

น้ำยาดับกลิ่นพรม
ผสม เบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยกับแป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วย หยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นโปรดลงไป 15 หยด ใส่ขวดสเปรย์ฉีดบนพื้นพรมก่อนนอนทิ้งไว้จนเช้า กลิ่นพรมจะสะอาดสดชื่น หรือ โรยเบกกิ้งโซดาให้ทั่ว ปล่อยทิ้งไว้ 15 นาที แล้วดูดออก
ดับกลิ่นอับในตู้  ตู้เย็น
เบกกิ้งโซดาจะดูดกลิ่นอับในตู้เย็น ตู้กับข้าว พรม และในกระบะอึสัตว์เลี้ยงได้เป็นอย่างดี
หากคุณนำไปใช้ดูดกลิ่นในตู้เย็น ให้เปิดฝากล่องด้านบนออกให้หมด หรือเทใส่ถ้วย
ทิ้งไว้ด้านในสุดของตู้แล้คอยเปลี่ยนทุก 3 เดือน

ดับกลิ่นของน้องแมวในบ้าน
เอาเบกกิ้งโซดาเทลงไปใน litter box ของแมว ก่อนที่จะใส่ litter หลังจากนั้น ทุกครั้งที่คุณทำความสะอาด
litter box พอตักอึแมวไปแล้วก็เอาเบกกิ้งโซดาโรยนิดๆด้านบนเพื่อเป็นการกลบกลิ่นครับ

ดับกลิ่นท่อและแก้ท่อตัน
แทเบกกิ้งโซดา ลงไปในท่อ 1 ถ้วยก่อนแล้วใส่เกลือแกงลงไป 1/4 ถ้วย ตามด้วยน้ำร้อน
ท่อจะไม่ตันและกลิ่นสะอาดอีกด้วย

ล้างคราบน้ำมัน
โรย Baking Soda ทิ้งไว้สักพัก แล้วใช้น้ำอุ่นล้างออก

ดับไฟ
มีน้ำมันกระเด็นติดไฟนิดๆในครัว หรือว่าไฟติดในกะทะ อย่าเทน้ำลงไป เพราะว่าการเทน้ำลงไปบนน้ำมันที่ร้อนๆอยู่
จะทำให้ไฟลุกมากขึ้นเนื่องจากน้ำมันกระจาย ให้ใช้เบกกิ้งโซดาครับ แห้งๆนั่นแหละ เทลงไปตรงๆ
เบกกิ้งโซดาพอโดนความร้อนมันจะปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ออกมาช่วยทำให้ไฟลดน้อยลงได้ครับ
แต่ถ้าไฟมันลุกมากๆก็เอาตัวรอดกันก่อนเน้อ วิ่งครับวิ่ง
ผงวิเศษ กับร่างกาย

สครับขัดหน้า
เอาเบกกิ้งโซดา 3 ส่วน น้ำเปล่า 1 ส่วน ผสมกันให้ได้เปียกๆแล้วขัดหน้าเบาๆหน้าจะสะอาดดีครับ หรือผสมกับข้าวโอ๊ดทำให้หน้านุ่มสวย

สครับขัดผิว
เบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วย เกลือครึ่งถ้วย มะนาว 1 ลูก น้ำมันทาผิว 2 ช้อนโต๊ะ เอาผสมกันก่อนจะใช้แล้วก็เอามาขัดผิวระหว่างอาบน้ำครับ

ขจัดสิ้วเสี้ยน
ล้าง หน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น เพื่อ ขยายรูขุมขน นำผงเบกกิ้งโซดา ผสมกับน้ำอุ่น พอเหมาะ ขัด ช่วงที่ต้องการ ทิ้งไว้ 3-4 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น หรือ น้ำเย็น ( น้ำเย็น ช่วย กระชับรูขุมขน )  ใช้ อาทิตย์ละ ไม่เกิน ถ้าคุณมีผิวแห้ง ใช้ 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์ แต่ถ้าคุณมีผิวมันใช้  2-3 ครั้งต่ออาทิตย์
ล้างแปรงและหวี
เอาเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา ผสมน้ำอุ่นในชามอ่างเล็กๆ แช่หวีกับแปรงไว้ครับ มันจะทำให้พวกคราบต่างๆหลุดออกได้ง่าย

น้ำยาดับกลิ่นปาก  
ผสม เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะ ในน้ำ 1 แก้ว ดับกลิ่นหอมกลิ่นกระเทียมได้ ถ้าใช้เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 1 แก้ว และผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากได้

ขัดฟันให้ขาว  
ผสม เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชาผสมน้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา ใช้แปรงสีฟันจุ่มแล้วขัดฟันเบาๆ บ้วนน้ำเปล่าจนสะอาด คราบชากาแฟจะหายไป (ห้ามทำเวลาป่วย เพราะมะนาวกรดสูงอาจทำลายเคลือบฟันได้)

ทำความสะอาดที่ดัดฟัน (retainers)
ผสม เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชากับน้ำอุ่น 1 ถ้วย แช่ไว้สักพักแล้วเอาแปรงขัดๆปัดๆคราบออก

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม http://sor-por-chor.blogspot.com ของผมครับ
ขอมูลจาก:http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=51930.0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Ads Inside Post